"มาม่า"ย้ำผลิตพอความต้องการ

อุปโภค-บริโภคแจงสินค้าขาดตลาดแค่ชั่วคราว จากสายส่งสะดุดน้ำท่วม “มาม่า” เร่งผลิตเต็มที่ทุกวันรับความต้องการผู้บริโภค
นายสุชัย รัตนเจียเจริญ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ผู้ผลิตและทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จตรา “มาม่า” เปิดเผยว่าขณะนี้ บริษัทได้เดินเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตมาม่าขึ้น 25-30% จากช่วงปกติ และเดินเครื่องการผลิตสินค้าเป็น 3 กะต่อวันในทุกวัน รวมทั้งในวันหยุด เพื่อให้มีสินค้ารองรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อสินค้า เพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษในขณะนี้

ทั้งนี้ บริษัทไม่ต้องการให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก กักตุนสินค้าจำนวนมาก และกังวลว่าจะซื้อมาม่าไม่ได้ พร้อมยืนยันว่าการที่สินค้ามาม่ามีวางจำหน่ายไม่ครบทุกร้านค้าหรือห้างค้า ปลีกนั้น มาจากสินค้าหมดสต๊อกชั่วคราว จากการความล่าช้าในการขนส่งสินค้าจากปัญหาน้ำท่วม และคลังสินค้าของห้างค้าปลีกบางแห่งที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงถูกน้ำท่วมเท่า นั้น ซึ่งในสัปดาห์นี้สินค้าจะมีปริมาณเพียงพอกับความต้องการของผู้บริโภค
นอกจากนี้ ขอยืนยันว่าสินค้าดังกล่าวไม่ได้ขาดแคลน แต่เป็นการขาดตลาดแค่ชั่วคราวเท่านั้น โดยคาดว่าหลังจากผู้บริโภคคลายความตื่นตระหนกเพื่อกักตุนสินค้าหายไปแล้ว นั้น จะมีสินค้าตามปริมาณปกติแน่นอน ซึ่งแม้ว่าในขณะนี้ความต้องการซื้อสินค้าจะมีมากเป็นพิเศษ ที่สำคัญบริษัทไม่มีแผนปรับขึ้นราคาสินค้าอย่างแน่นอน
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย กล่าวว่า ปัญหาการขาดแคลนสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในขณะนี้ มั่นใจว่าจะเกิดขึ้นแค่ชั่วคราวเท่านั้น เพราะมาจากการขนส่งสินค้าที่ไม่สะดวก และต้องใช้เส้นทางที่ไม่ถูกน้ำท่วม ประกอบกับมีความต้องการซื้อสินค้าเข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก จึงเกิดปัญหาขาดตลาดชั่วคราว และไม่อยากให้ประชาชนเกิดความตื่นตระหนก
พร้อมกันนี้ ยังได้ขอความร่วมมือร้านค้าสมาชิกในสมาคมให้ตรึงราคาสินค้าไว้เท่าเดิม และไม่ให้ปรับขึ้นราคาสินค้า รวมทั้งได้ให้สมาชิกขายสินค้าในราคาต้นทุน หรือขายในราคาขาดทุน เพื่อช่วยเหลือประชาชนไม่ได้รับความเดือดร้อนมากยิ่งขึ้นจากปัญหาน้ำท่วม เช่น บะหมี่สำเร็จรูป ราคา 6 บาท ขายในราคา 5 บาท และ น้ำดื่ม ราคา 6 บาท ให้ขายราคา 4 บาท เป็นต้น
เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ถึงขณะนี้พบว่ามีร้านค้าปลีก หรือ ร้านโชห่วยบางแห่งมีสินค้าบริโภคไม่พอเพียงจำหน่าย โดยเฉพาะ จ.พระนครศรีอยุธยา และอ่างทอง จากปัญหาน้ำท่วมรุนแรง เนื่องจากการขนส่งสินค้าที่ต้องล่าช้าไปจากกำหนดเดิมนานหลายวันจากเส้นทางขน ส่งที่ถูกน้ำท่วม ขณะเดียวกัน ยังพบว่ากำลังซื้อของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวซบเซาลงมาก เนื่องจากโรงงานของประชาชนถูกน้ำท่วมจึงไม่สามารถไปทำงานได้ จึงเกิดความกังวลจะตกงาน หรือไม่มีรายได้ ทำให้ไม่กล้าที่จะใช้จ่ายเงินแล้ว

ที่มา posttoday